ipro999.win มิคุนิ เวิลด์ สเตเดียม สนามฟุตบอลราคา 10,000 ล้านเยน!!! ของ ทีม กิราวานซ์ คิตะคิวชู

มิคุนิ เวิลด์ สเตเดียม ตั้งอยู่บริเวณแหลมเล็กๆ ทางตอนเหนือของเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น จุผู้คนได้ราว 15,300 คน มีอัฒจันทร์ครบทั้งสี่ด้าน แต่ด้านหนึ่งเปิดโล่งไร้หลังคาเผยให้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลฝั่งช่องแคบคัมมง

ในปี 2010 กิราวานซ์ คิตะคิวชู ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในเจลีกดิวิชั่น 2 ได้สำเร็จ ทั้งที่จบอันดับ 4  ของตาราง หลังทีมที่จบในอันดับเหนือพวกเขา ไม่ผ่านเกณฑ์คลับไลเซนซ์ของเจลีก ทำให้ ฮอนโจ แอธเลติก สเตเดียม สนามเหย้าที่จุผู้คนได้ราว 10,000 คน คับแคบเกินไปสำหรับการเป็นสโมสรอาชีพ แผนการสร้างสนามใหม่จึงถูกเสนอขึ้นมา

เดิมที สโมสรตั้งใจที่จะปรับปรุงฮอนโจ สเตเดียม และเพิ่มความจุเป็น 10,202 คน แต่หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว สภาเมืองก็มีมติให้สร้างสนามใหม่ที่มีความจุอย่างน้อย 15,000 ที่นั่ง เพื่อให้ตรงตามเงื่อนไขการเป็นสโมสรเจลีกดิวิชั่น 1 เผื่อว่าวันหนึ่งพวกเขาจะได้ขึ้นไปสูดอากาศบนลีกสูงสุด

หลังควานหาพื้นที่ในการสร้างสนามทั่วทั้งคิวชู ทั้งทางบกหรือกระทั่งใช้โดรนบินสำรวจ สภาเมืองก็มีมติเลือกพื้นที่บริเวณโคคุระเหนือ ใกล้กับท่าเรือ เป็นพื้นที่ในการสร้างสนาม บริเวณดังกล่าว เคยเป็นที่จอดรถเก่า ทางตอนเหนือ ของสถานีรถไฟโคคุระ  โดยหวังที่จะให้สนามแห่งใหม่นี้ กลายเป็นศูนย์กลาง ในการกระตุ้นเศรษฐกิจแห่งใหม่ของเมือง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีคนสัญจรน้อยกว่าฝั่งใต้

พื้นที่บริเวณนี้ ไม่ใช่ตัวเลือกแรก ในการสร้างสนาม แต่ก็เป็นพื้นที่ ที่อยู่ใจกลางเมืองคิตะคิวชู และสะดวกในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ และที่สำคัญ มันยังตั้งอยู่ชิดติดกับแม่น้ำแบบสุดๆ และแม้จะหาพื้นที่สร้างสนามได้แล้ว แต่อุปสรรคต่อมาคือ ค่าใช้จ่ายในการเนรมิตรสนามแห่งใหม่ จากการประเมินกันว่าจะใช้เงินเป็นจำนวนสูงถึง 10,000 ล้านเยน

โชคดีที่การสร้างสนามในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเงินเป็นจำนวน 3,000 ล้านเยน (ราว 900 ล้านบาท) จาก TOTO บริษัทล็อตเตอรีด้านกีฬา และเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของเจลีก ทำให้ Mikuni World Stadium กลายเป็น สนามฟุตบอลแห่งที่ 2 ต่อจาก ซุอิตะ ซิตี้ ฟุตบอล สเตเดียม ของกัมบะ โอซากา ที่ได้รับการช่วยเหลือทางการเงินจากพวกเขา

หน้าที่ของเมืองคือการหาเงินเพิ่มอีก 7,000 ล้านเยน (ราว 2,100 ล้านบาท) ก่อนจะงอกขึ้นมาเป็น 8,500 ล้านเยน( ราว 2,550 ล้านบาท) เนื่องจากตอนแรกวางแผนไว้ว่าจะมีหลังคาฝั่งอัฒจันทร์หลักเพียงแค่ฝั่งเดียว ก่อนจะเปลี่ยนแผนเพิ่มหลังคาทางฝั่งทิศเหนือและทิศใต้เข้าไปด้วย

แม้ว่าในช่วงแรกจะมีการต่อต้าน เนื่องจากมองว่าการสร้างสนามกีฬาในราคาขนาดนี้ เป็นการลงทุนที่มากจนเกินไป และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเมือง แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถรวบรวมเงินจนสามารถสร้างสนามได้สำเร็จ และเริ่มก่อสร้างอย่างเป็นทางการเดือนเมษายน 2015 และเสร็จสิ้นในปี 2019 เปิดใช้งานภายใต้ชื่อ มิคุนิ เวิลด์ สเตเดียม หลัง มิคุนิ บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ ซื้อสิทธิ์ในชื่อสนามด้วยมูลค่า 30 ล้านเยนต่อปีจนถึงปี 2020

ในเกมนัดเปิดฤดูกาลกับ เบลาบิตซ์ อาคิตะ เป็นการใช้สนาม Mikuni World Stadium ของ กิราวานซ์ อย่างเป็นทางการเป็นเกมแรก (ก่อนหน้านี้สนามทดลองใช้ใน เจแปน รักบี้ ดรีมแมตช์ ในเดือน กุมภาพันธ์) พวกเขาได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม มีคนซื้อตั๋วเข้ามาจนเกือบเต็มความจุถึง 14,935 คน กลายเป็นสถิติผู้ชมในสนามสูงสุดตลอดกาลของเจลีก 3

ความสวยงามของทิวทัศน์ในสนาม Mikuni World Stadium ทำให้ผู้คนแวะเวียนอย่างไม่ขาดสาย ส่งผลให้ยอดแฟนบอลของ กิราวานซ์ เพิ่มขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดจากปี 2016 ถึงปี 2017 ถึง 84.2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็คือ ยอดผู้ชมเฉลี่ยสูงถึง 5,939 คน กลายเป็นทีมที่มียอดผู้ชมสูงสุดในเจลีก3 และมากกว่าบางทีมในเจลีก2 เสียอีก และหลังจากนั้น กิราวานซ์ ก็ทำผลงานได้ดีเรื่อยมา จนได้เลื่อนชั้นกลับมาโลดแล่นในเจลีก2 อีกครั้ง ในฤดูกาลปัจจุบัน (2020)

แต่วัตถุประสงค์ในการสร้างสนามแห่งนี้ มีอะไรที่มากกว่าแค่การสร้างสนามสำหรับกีฬาฟุตบอล เพราะพวกขาเชื่อว่า สนามแห่งนี้จะมีประโยชน์วงกว้างแก่ชุมชนท้องถิ่น เช่นการสร้างโอกาสการสร้างงาน การเปิดตลาดผู้บริโภค มีการใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น รวมไปถึงสร้างความกลมเกลียวในชุมชน และฟื้นฟูชุมชนเมือง

เจลีกผลักดันให้สนาม กลายเป็นสถานที่ ที่ทุกคนสามารถพาครอบครัว หรือเพื่อนฝูงมาสนุกกัน ได้ทุกเพศทุกวัย ภายใต้แนวคิด “สนามที่เป็นมิตรกับทุกคน”

Credit by มฤคย์ ตันนิยม

——————————————————————–

สมัคร โปรโมชั้นภายในเดือนนี้ รับโบนัสร้อนแรง แอดเลย ที่ line: @ipro999