คุณรู้หรือไม่ว่า “เสื้อโปโล” จุดกำเนิดมาจาก กีฬา ไม่ใช่ แฟชั่น??

ipro999.win ในวันที่เราต้องการใส่เสื้อลำลองที่สุภาพ ในความคิดแรกของคนส่วนใหญ่ ก็คงจะเป็น เสื้อโปโล ด้วยเอกลักษณ์ของเสื้อโปโล ที่เป็นเสื้อสุดเอนกประสงค์ ใส่ทำกิจกรรมได้มากมาย แถมดูดีมีระดับ

เสื้อโปโล เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 ในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นอาณานิคมของอังกฤษในช่วงนั้น สภาพอากาศที่ร้อนระอุ ของประเทศอินเดีย ทำให้ทหารอังกฤษ พยายามคิดค้น เครื่องแต่งกาย ที่จะทำให้พวกเขา ใช้ชีวิตกลางแจ้ง ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

พวกเขาจึงคิดค้น เสื้อแขนสั้น ผลิตด้วยผ้าฝ้าย เพื่อช่วยเรื่อง การระบายอากาศ และ ได้ใส่คอปกเข้าไป เพื่อแสดงถึง ความเป็นระเบียบเรียบร้อย เหมาะสมกับการเป็นทหาร จึงเกิดเป็นเสื้อโปโล ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

ทำไมต้อง “โปโล” เนื่องจาก ในช่วงเวลานั้น กีฬาโปโล ถือเป็นกีฬาประจำตัว ของเหล่าทหารอังกฤษ ไม่ว่า พวกเขาจะไปอยู่ที่ไหน พวกเขาจะพากีฬาโปโล ติดตัวไปด้วย เสื้อโปโลจึงกลายเป็น เสื้อประจำโปโลคลับ ซึ่งเป็น เสื้อโปโลแบบเเขนยาว เพราะทหารที่เป็น นักกีฬาโปโลบางคน ถนัดในการใส่เสื้อแขนยาว เพื่อเล่นกีฬาโปโลมากกว่า

 

จาก โปโล ไปสู่ เทนนิส ปี 1899 จอห์น อี บรูค สมาชิกจากครอบครัว ผู้ทำธุรกิจ แบรนด์เสื้อผ้า Brooks Brothers ในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางมาประเทศอังกฤษ และได้เข้าชมการแข่งขันกีฬาโปโล ทำให้เขาได้เห็นเสื้อโปโลเป็นครั้งแรกในชีวิต เขาเกิดไอเดียที่ว่า เสื้อชนิดนี้ เป็นได้มากกว่าเสื้อกีฬาทั่วไป

บรูคเดินทางกลับไปที่ สหรัฐอเมริกา และ พัฒนาต่อยอดเสื้อโปโล ให้กลายเป็น เสื้อเชิร์ตคอปก โดยพวกเขา ให้นิยามเสื้อตัวนี้ว่า “เสื้อที่ยอดเยี่ยมที่สุด ที่มาจากการลอกเลียนแบบเสื้อตัวอื่น” แต่แบรนด์ Brooks Brothers ยังคงตั้งชื่อ ให้สินค้าของเขาว่า “เสื้อโปโล”

กว่าชาวอเมริกัน จะได้รับรู้ว่า เสื้อโปโลที่พวกเขารู้จัก เป็นของปลอมทำเหมือน ต้องรอถึงช่วงทศวรรษ 1920s หลังจาก ฌอง เรเน ลาคอสต์ นักเทนนิสดาวรุ่งพุ่งแรง หันมาหยิบเสื้อโปโลแบบอังกฤษ และเขายัง มีความเป็นเจ้าพ่อ แฟชั่นอยู่ในตัว การใส่เสื้อโปโล ลงสนาม แข่งเทนนิสของเขา ไม่ได้ทำให้เสื้อโปโล เหมือนเสื้อกีฬาแม้แต่น้อย แต่กลายเป็นเสื้อแฟชั่น ที่ดูหรูหรา มีสไตล์ขึ้นมาในทันที

เมื่อเขากลายเป็นทั้งแชมป์ เฟรนช์ โอเพน, วิมเบิลดัน และ ยูเอส โอเพน รวมเป็นแชมป์แกรนด์สแลม 7 รายการ ในฐานะนักเทนนิสเดี่ยว (นอกจากนี้ยังเป็นแชมป์แกรนด์สแลม ในประเภทคู่อีก 3 รายการ) ทำให้เสื้อโปโลดังเป็นพลุแตกไปทั่วโลกทันที เพราะชื่อเสียงของเขา

จากนั้น ลาคอสต์ ได้สร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา เพื่อขายสินค้าแบบที่เขาใส่ลงสนาม ให้กับแฟนกีฬา ในปี 1929 ซึ่งพัฒนามาเป็นแบรนด์ Lacoste และในยุค 50s ได้เริ่มผลิตเสื้อโปโลสีอื่นขึ้นมา เพื่อเจาะตลาดสหรัฐฯ และแน่นอนว่า ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี

ความรุ่งเรืองของเสื้อโปโลในยุค 50s ทำให้ชาวอเมริกัน หันมาเรียกเสื้อโปโลแท้จากยุโรป ว่า “เสื้อโปโล” และใส่เสื้อโปโลกันอย่างจริงจัง ส่วนเสื้อโปโลแบบอเมริกัน ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “เสื้อเชิร์ต” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ความนิยมของเสื้อโปโลในสหรัฐฯ นำไปสู่การกำเนิดแบรนด์ Ralph Lauren ในปี 1967 ที่ก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์เสื้อโปโลอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ ในยุค 70s และโด่งดังจนถึงขั้นบุกไปตีตลาดฝั่งยุโรป

ความดูดีของเสื้อโปโล ไม่เคยรอดผลสายตาเหล่าศิลปิน นักดนตรี ที่นำเสื้อโปโล ไปต่อยอดให้กลายเป็นเสื้อแฟชั่นอีกรูปแบบหนึ่ง โดยเฉพาะในหมู่แรปเปอร์ ที่สหรัฐอเมริกา ช่วงยุค 80s

มาถึงยุค 90s เมื่อโลกก้าวไกลมากขึ้น การผลิตเสื้อผ้าไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ที่ไหนก็ผลิตเสื้อโปโลได้ ทำให้เสื้อโปโล เริ่มลดจากการเป็นเสื้อแฟชั่น กลายเป็นเสื้อผ้าทั่วไป ที่เราจะหาซื้อจากที่ไหนก็ได้ในปัจจุบันนี้

 

เมื่อผู้อ่าน ได้รับรูปประวัติของเสื้อโปโลกันไปแล้ว คงจะอดใจไม่ไหวที่ ต้องยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดหาเสื้อโปโลดีๆสักตัว ติดตู้เสื้อผ้าเอาไว้ เพราะใส่ไปทำงานก็ดูเท่ห์ ใส่ไปเที่ยวก็ดูเก๋ ของมันต้องมีนะครับ….

Credit by ณัฐนนท์ จันทร์ขวาง

——————————————————————–

สมัคร โปรโมชั้นภายในเดือนนี้ รับโบนัสร้อนแรง แอดเลย ที่ line: @ipro999

IPROBET-ipro999 แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอลออนไลน์ สมัครวันนี้ไม่มีฝากขั้นต่ำ เล่นได้ถอนได้ทันที เว็บตรงอันดับหนึ่ง สมัครวันนี้รับโปรมากมาย @ipro999v5